ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกาเย (Gagne’s eclecticism)


ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกาเย (Gagne’s eclecticism)

     ทิศนา แขมมณี. (2550 : 121-136) กล่าวไว้ว่า Gagne and Briggs ทฤษฎีการเรียนรู้ของกานเย กล่าวไว้ว่า การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด 8 ประเภทดังนี้
1.  การเรียนรู้สัญญาณ (signal-learning) เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ อยู่นอกเหนืออำนาจจิตใจ ผู้เรียนไม่สามารถบังคับพฤติกรรมไม่ให้เกิดขึ้นได้
2.  การเรียนรู้สิ่งเร้า การตอบสนอง (stimulus-response learning) เป็นการเรียนรู้ต่อเนื่องจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง แตกต่างจากการเรียนรู้สัญญาณเพราะผู้เรียนสามารถควบคุมพฤติกรรมตนเองได้
3.  การเรียนรู้การเชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง (chaining) เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนองติดต่อกับเป็นการเรียนรู้ในด้านทักษะ  เช่น  การเขียน  การอ่าน  การพิมพ์ดีด  และการเล่นดนตรี  เป็นต้น
4.  การเชื่อมโยงทางภาษา (verbal association) เป็นการเรียนรู้ลักษณะคล้ายกับการเรียนรู้การเชื่อมโยงแบบต่อเนื่องแต่เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาโดยออกมาเป็นคำพูด  แล้วจึงใช้ตัวอักษร  เช่น  การเรียนการใช้ภาษา รวมทั้งการเขียนตัวอักษรด้วย
5.  การเรียนรู้ความแตกต่าง (discrimination learning) เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถมองเห็นความแตกต่างของสิ่งต่างๆโดยเฉพาะความแตกต่างตามลักษณะของวัตถุ
6.  การเรียนรู้ความคิดรวบยอด (concept learning) เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถจัดกลุ่มสิ่งเร้าที่มีความเหมือนกันหรือแตกต่างกัน
7.  การเรียนรู้กฎ (rule learning) เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากการรวมหรือเชื่อมโยงความคิดรวบยอดตั้งแต่สองอย่างขึ้นไปและตั้งเป็นกฎเกณฑ์ขึ้น
8.  การเรียนรู้การแก้ปัญหา (problem solving) เป็นการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาโดยการนำกฎเกณฑ์ต่างๆมาใช้ การเรียนรู้นี้เป็นกระบวนการที่เกิดภายในตัวผู้เรียน

     สยุมพร  ศรีมุงคุณ (https://www.gotoknow.org/posts/341272)  เขียนเกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานไว้ว่า ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกานเย (Gagne’s eclecticism) แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทฤษฏีนี้ คือ  ความรู้มีหลายประเภท บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง  บางประเภทมีความซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง  หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้ คือ การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด 9  ขั้น  ดังนี้
          ขั้นที่  1  สร้างความสนใจ (Gaining attention)
          ขั้นที่  2  แจ้งจุดประสงค์ (Informing the learning)
          ขั้นที่  3  กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น (Stimulating recall of prerequisite learned capabilities)
          ขั้นที่  4  เสนอบทเรียนใหม่ (Presenting the stimulus)
          ขั้นที่  5  ให้แนวทางการเรียนรู้ (Providing learning guidance)
          ขั้นที่  6  ให้ลงมือปฏิบัติ (Eliciting the performance)
          ขั้นที่  7  ให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
          ขั้นที่  8  ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ (Assessing the performance)
          ขั้นที่  9  ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนการเรียนรู้ (Enhancing retention and transfer)

     บริหารการศึกษา กลุ่มดอนทอง 52 (http://dontong52.blogspot.com. ) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า ทฤษฎีการเรียนรู้ของกานเย (Gagne)
          1) ประเภทการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน ง่ายไปหายาก 8 ประเภท
                 - การเรียนรู้สัญญาณ
                 - การเรียนรู้สิ่งเร้า การตอบสนอง
                 - การเรียนรู้การเชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง
                 - การเชื่อมโยงทางภาษา
                 - การเรียนรู้ความแตกต่าง
                 - การเรียนรู้ความคิดรวบยอด
                 - การเรียนรู้กฎ
                 - การเรียนรู้การแก้ปัญหา
          2) การเยได้แบ่งสมรรถภาพการเรียนรู้ไว้ 5 ประการ
                 - สมรรถภาพในการเรียนรู้ข้อเท็จจริง
                 - ทักษะเชาว์ปัญญา
                 - ยุทธศาสตร์ในการคิด
                 - ทักษะการเคลื่อนไหว
                 - เจตคติ

     สรุป

          การเรียนรู้ของ Gagne ได้ผสมผสานทฤษฎีพฤติกรรมนิยมกับทฤษฏีความรู้ความเข้าใจ เป็น การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด 9  ขั้น  ดังนี้
                                ขั้นที่  1  สร้างความสนใจ(Gaining attention) 
                                ขั้นที่  2  แจ้งจุดประสงค์(Informing the learning)
                                ขั้นที่  3  กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น(Stimulating recall of prerequisite learned capabilities)
                                ขั้นที่  4  เสนอบทเรียนใหม่(Presenting the stimulus)
                                ขั้นที่  5  ให้แนวทางการเรียนรู้(Providing learning guidance)
                                ขั้นที่  6  ให้ลงมือปฏิบัติ(Eliciting the performance)
                                ขั้นที่  7  ให้ข้อมูลป้อนกลับ(Feedback)
                                ขั้นที่  8  ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์(Assessing the performance)
                                ขั้นที่  9  ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนการเรียนรู้(Enhancing retention and transfer)


    ที่มา
          ทิศนา แขมมณี.  (2550).  การสอนจิตวิทยาการเรียนรู้ เรื่องศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่                           มีประสิทธิภาพ.  กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
          บริหารการศึกษา กลุ่มดอนทอง 52.  (2552)http://dontong52.blogspot.com.  [ออนไลน์].  เข้าถึงเมื่อวันที่ 19                              กรกฎาคม 2561.
          สยุมพร  ศรีมุงคุณ.  (2553).  https://www.gotoknow.org/posts/341272.  [ออนไลน์]. 
                          เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561.


ความคิดเห็น